บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ (JR) เปิดผลงานงวดครึ่งแรกปี65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 108.81 ล้านบาท และรายได้รวมแตะ 1,077.44 ล้านบาท เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือโครงการ ต่างๆ รวมทั้งควบคุมต้นทุนค่าใช้ใจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟากซีอีโอ "จรัญ  วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" ระบุแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังสัญญาณดี มีโอกาสเข้าประมูลงานทั้งด้านวิศวกรรมสื่อสารฯและไฟฟ้าเพิ่มเติมกว่า 7 พันล้านบาท  ทั้งโครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศ เป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูเฟส 2 มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท โครงการรื้อย้ายและสร้างใหม่ระบบโทรคมนาคมของรถไฟฟ้าสายอื่นๆอีกราว 500-600 ล้านบาท มั่นใจสนับสนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า

นายจรัญ  วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) (JR) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 108.81 ล้านบาท และมีรายได้รวมเท่ากับ 1,077.44 ล้านบาท  เนื่องจาก บริษัทฯทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือซึ่งปัจจุบัน มี backlog อยู่ที่ประมาณ 3,761 ล้านบาท

"ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทฯยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรสุทธิไว้ได้ โดยเน้นใช้กลยุทธ์การควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่มีงานระบบ Cyber Security เข้ามาช่วยสนับสนุนซึ่งเป็นงานที่มีมาร์จิ้นดี ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังยืนอยู่ได้ในระดับมากกว่า 15%" 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีงานโครงการใหม่เปิดประมูลกว่า 7 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู เฟสที่ 2 มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท โครงการรื้อย้ายและสร้างใหม่ระบบโทรคมนาคมของรถไฟฟ้าสายอื่นๆ อีกราว 500-600 ล้านบาทส่วนที่เหลือเป็นโครงการติดตั้งวางระบบอุปกรณ์สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ซึ่งบริษัทฯคาดหวังว่าจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากบริษัทฯมีความเชี่ยวชาญในการวางระบบ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนbacklog ในปีนี้จะทะลุ 1 หมื่นล้านบาท รองรับการเติบโตระยะยาวถึงปี 2568 

นอกจากนี้ JR บริษัทฯยังคงมองหาการขยายการลงทุนใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพิ่มแหล่งที่มาของรายได้โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จับมือกับบริษัท พลังงานมหานคร จำกัด (EMN) ซึ่งบริษัทย่อยของ EA ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “EA Anywhere” ลงนามบันทึกความเข้าใจกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Smart Charging Station) ซึ่งปัจจุบันได้มีความคืบหน้า โดยบริษัทได้ทยอยรับมอบพื้นที่จากลูกค้าแล้วเพื่อเข้าดำเนินการ